TPNW: Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons
สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
วันที่ 22 มกราคม 2564 สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังความพยายามยาวนาน 75 ปี #nuclearban สนธิสัญญาฉบับนี้ได้รับการรับรองเมื่อเดือนก.ค. 2560 และเปิดให้ลงนามในเดือนก.ย. ของปีเดียวกัน ฮอนดูรัสเป็นประเทศที่ 50 ที่ลงนามให้สัตยาบันสนธิสัญญาฉบับนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ม.ค. 2564 หรือ 90 วันหลังจากการลงนามสัตยาบัน การยอมรับ การอนุมัติ หรือภาคยานุวัติครั้งที่ 50
วันที่ 24 ต.ค. 2020 องค์การสหประชาชาติ (United Nations UN) เปิดเผยว่าได้รวบรวมรายชื่อประเทศที่ให้สัตยาบันในสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons) หรือเรียกสั้นๆ ว่า TPNW ครบ 50 ประเทศแล้ว
สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศฉบับแรกเกี่ยวกับการห้ามอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยการห้ามพัฒนา ทดลอง ผลิต จัดเก็บในคลัง ติดตั้ง ถ่ายโอน ใช้ หรือขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงสนับสนุนหรือส่งเสริมกิจกรรมใด ๆ ข้างต้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก ICAN และกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาฉบับนี้เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2017 และเป็น 1 ใน 3 ประเทศแรกร่วมกับ โฮลีซี และ กายอานา
ด้านชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์นำโดยสหรัฐฯ รัสเซีย จีน สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส รวมถึงพันธมิตรของสหรัฐฯ ในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organzation NATO) ต่างออกมาคัดค้านสนธิสัญญาฉบับใหม่นี้ โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นอันตรายต่อสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty NPT) ที่บังคับใช้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว และแสดงความกังวลว่าจะเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือในปัจจุบันที่พยายามจะหยุดยั้งการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
โครงการนานาชาติเพื่อการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ (International Campaign to Abolish Nuclear Weapons ICAN) องค์กรในการนำสนธิสัญญาแบนนิวเคลียร์เข้าสู่ที่ประชุม กล่าวว่า ช่วงเวลานี้นับเป็นการสิ้นสุดการรอคอย 75 ปีนับตั้งแต่การทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ ในที่สุดการรณรงค์หลายทศวรรษก็สัมฤทธิ์ผล ทั้ง 50 ประเทศที่ร่วมให้สัตยาบันได้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำที่แท้จริง จากการกำหนดบรรทัดฐานในระดับนานาชาติว่าอาวุธนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอีกด้วย
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons: TPNW) โดยกล่าวว่า ความสำเร็จของสนธิสัญญา TPNW เปรียบเสมือน "ชัยชนะของความร่วมมือพหุภาคี" และเน้นย้ำว่า อาวุธนิวเคลียร์ "อาจช่วยให้บางประเทศรู้สึกปลอดภัย แต่อาจเป็นมหันตภัยต่อความมั่นคงของส่วนรวม" ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็น ๑ ใน ๓ ประเทศแรกในโลกที่ลงนามและให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาดังกล่าว