ข้อมูลบ่งชี้ว่า ระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้นโดยเฉลี่ย
ในซีกโลกเหนือเท่ากับ 0.65 เซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างปี
1961-1990 และอุณหภูมิพื้นผิวทะเล ในมหาสมุทรแอตแลนติก ก็สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี
1880 ด้วย ส่วนอุณหภูมิของโลกทั้งใบ สูงขึ้นเท่ากับ 0.48 เซลเซียส
สูงที่สุดเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา
โลกร้อนขึ้นแน่ๆ แต่การคำนวณอุณหภูมิ มีความน่าเชื่อถือเพียงใด
เรื่องนี้ เดวิด ไวเนอร์ หนึ่งในทีมงานบอกว่า ไม่มีวิธีการใดที่จะคำนวณอุณหภูมิได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า การคำนวณของทีมงาน จะผิดพลาดได้ไม่เกินบวกลบ
1 องศาเซลเซียส ไวเนอร์ยังบอกว่า แนวโน้มในระยะยาว ค่อนข้างชัดเจนว่า
อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้น และเร็วขึ้นกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งชี้ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น
มันเป็นเรื่องฟิสิกส์ง่ายๆ เมื่อมีก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศมากขึ้นจากการปลดปล่อยของโลก
ผลที่ตามมาก็คือ อุณหภูมิที่สูงขึ้น ไวเนอร์กล่าว
ข้อมูลภาวะโลกร้อนที่น่าตกใจก็คือ นับตั้งแต่ปี 1860 เป็นต้นมา
8 ใน 10 ของปีที่ร้อนที่สุดเกิดขึ้นในทศวรรษที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตราบใดที่สหรัฐอเมริกา ไม่ร่วมกับนานาชาติ
ในการลดก๊าซเรือนกระจก ก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาโลกร้อนได้
บิล คลินตัน พูดไว้น่าจับใจ เขาบอกว่า ขณะนี้ไม่มีข้อเคลือบแคลงใดๆ
ว่าสภาวะการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ กำลังขยายตัวออกไป เพราะการกระทำของมนุษย์
และว่าโลกนี้เป็นความมหัศจรรย์ทางชีวเคมี ดังนั้น การทำลายองค์ประกอบของความมหัศจรรรย์
จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งในอนาคต
ถือว่าเราบ้าเอามากๆ ถ้าหากมามัวนั่งเล่นเกมอยู่
กับอนาคตของลูกหลานของตัวเอง คลินตันกล่าว
|